เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัสตานา ได้จัดโครงการบริการตรวจสุขภาพพื้นฐานและการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต และการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแรงงาน และการเสริมสร้างกำลังใจและความเข้มแข็งให้ชุมชนชาวไทยในคาซัคสถาน ณ เมืองอัลมาตี ซึ่งมีคนไทยพำนักอยู่มากที่สุดในคาซัคสถาน โดยมีคนไทย เข้าร่วมประมาณ 40 คน โดยในโอกาสกล่าวเปิดโครงการฯ เรือเอกชัชวรรณ สาครสินธุ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงอัสตานา ได้กล่าวย้ำเรื่องการให้ความสำคัญกับงานคุ้มครองคนไทยที่อาศัยอยู่ในเขตอาณาของสถานเอกอัครราชทูตฯ โดยหากคนไทยในคาซัคสถานมีความยากลำบากในการใช้ชีวิต หรือมีปัญหาประการใด สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ตลอดเวลาทางโทรศัพท์ฮอตไลน์และกลุ่มไลน์ของคนไทยในคาซัคสถาน รวมทั้งสามารถติดตามข่าวประชาสัมพันธ์ของสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่ช่องทางเฟซบุ๊คทางการของสถานเอกอัครราชทูตฯ ด้วย

------------

ภายใต้โครงการฯ มีกิจกรรมหลัก ได้แก่ (1) การตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐานและการให้คำปรึกษาสุขภาพจิตเบื้องต้นโดย ผศ. พิเศษ พญ. จามรี ณ บางช้าง นายแพทย์เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลราชวิถี (2) การบรรยายแบบออนไลน์เกี่ยวกับการคุ้มครองคนไทยในต่างประเทศและกฎหมายพื้นฐานที่แรงงานไทยในต่างประเทศควรรู้ โดยนายอำนาจ พละพลีวัลย์ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และ (3) การแสดงธรรมเทศนาออนไลน์ โดยพระครูธีรธรรมาภรณ์ พระวิปัสสนาจารย์/ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร

------------

นอกจากนี้ ในวันที่ 17 - 18 และ 20 กุมภาพันธ์ 2567 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้นำ ผศ. พิเศษ พญ. จามรีฯ ออกหน่วยตรวจสุขภาพกายและเยี่ยมเยียนคนไทยที่ทำงานในร้านสปาต่าง ๆ ในเมืองอัลมาตีที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการในวันข้างต้นได้อีก 6 แห่ง รวมพบปะคนไทยประมาณ 20 คน

------------

โครงการที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดในปีนี้ นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับคนไทยในคาซัคสถานและได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากคนไทยในคาซัคสถานซึ่งขอให้สถานเอกอัครราชทูตฯ จัดเป็นประจำทุกปี เนื่องจากมีกิจกรรมที่ทำคนไทยได้มีโอกาสพบและปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด ได้สอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิของตนในฐานะแรงงานต่างชาติในคาซัคสถาน และสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทำความรู้จักกับคนไทยและรับทราบถึงบริบทของปัญหาที่พนักงานไทยในร้านสปาส่วนใหญ่ในคาซัคสถานประสบ ทำให้คนไทยเกิดขวัญและกำลังใจมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นเวทีให้คนไทยในคาซัคสถานได้พบปะเพื่อแลกเปลี่ยนเครือข่ายและประสบการณ์ระหว่างกัน ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนไทยในคาซัคสถานในภาพรวมได้ดีอีกด้วย