วันที่นำเข้าข้อมูล 8 เม.ย. 2563
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565
สารจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัสตานา วันที่ 8 เมษายน 2563
เรียน ประชาชนชาวไทยที่อาศัยอยู่ในสาธารณรัฐคาซัคสถาน สาธารณรัฐคีร์กีซ และสาธารณรัฐทาจิกิสถาน ทุกท่าน
ทุกท่านคงได้ทราบดีอยู่แล้วว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 มีความรุนแรง และได้ลุกลามไปทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทยและประเทศที่เราอาศัยอยู่ในขณะนี้ด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ได้มีมาตรการที่เข้มงวดในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 โดยคาซัคสถานได้จำกัดการออกจากที่อยู่อาศัยของประชาชน ยกเว้นเพื่อการออกไปซื้อของอุปโภคบริโภค และยารักษาโรคตามความจำเป็น ห้ามไม่ให้มีการชุมนุมในที่สาธารณะมากกว่า 3 คนขึ้นไป (ยกเว้นสมาชิกในครอบครัว) รวมทั้งประกาศปิดเมืองต่าง ๆ ทั่วคาซัคสถาน เพื่อกักกันโรค โดยให้หน่วยงาน บริษัท สถานประกอบการต่าง ๆ หยุดทำงาน ยกเว้นหน่วยงานของรัฐที่เห็นว่ามีความจำเป็น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ สถานพยาบาล สื่อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายยา ในขณะที่สาธารณรัฐคีร์กีซ ได้มีการประกาศสถานการณ์พิเศษในเมืองต่าง ๆ และได้กำหนดเวลาที่ห้ามออกจากเคหะสถานตั้งแต่เวลา 20.00 – 07.00 น.
การเดินทางกลับประเทศไทยในช่วงเวลานี้ ยังคงมีความยากลำบากยิ่ง เนื่องจากรัฐบาลคาซัคสถานสั่งห้ามไม่ให้มีเที่ยวบินใด ๆ ทำการบินเข้า-ออกสนามบินกรุงนูร์-ซุลตันและเมืองอัลมาตี ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ซึ่งรวมถึงเครื่องบินที่ทำการบินไปยังประเทศไทยด้วย โดยยังไม่มีการแจ้งว่า มาตรการดังกล่าวจะมีผลถึงเมื่อใด นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในประเทศไทย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2563 ห้ามอากาศยานขนส่งโดยสารทำการบินเข้ามายังท่าอากาศยานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว จนถึงวันที่ 18 เมษายน 2563 เวลา 23.59 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ คนไทยที่เดินทางกลับไทยจากต่างประเทศจะต้องยอมรับการกักกันเฝ้าระวังโรค (quarantine) ในทุกกรณีในพื้นที่ที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นเวลา 14 วัน เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับความเข้าใจและความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคนไทยทุกคนในเขตอาณา
สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแนะนำให้พี่น้องชาวไทยในเขตอาณาของสถานเอกอัครราชทูตฯ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ของประเทศเจ้าบ้านอย่างเคร่งครัด รวมทั้งป้องกันความเสี่ยงในการติดเชื้อ COVID-19 โดยการอยู่ในที่พักอาศัยและไม่ออกไปข้างนอกหากไม่จำเป็นจริง ๆ รักษาสุขอนามัย โดยการหมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ล้างมือ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น รับประทานอาหารร้อนและใช้ช้อนส่วนตัว ปิดปากเมื่อไอหรือจาม หลีกเลี่ยงการสัมผัสและการอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วย หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่จำเป็นต้องออกจากที่พักอาศัยและพยายามรักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร ทำความสะอาดสิ่งของที่ซื้อมาทันทีที่ซื้อเสร็จรวมทั้งหมั่นทำความสะอาดที่พักอาศัยเนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถมีชีวิตบนพื้นผิวต่าง ๆ ได้เป็นเวลานาน รักษาร่างกายให้อบอุ่น และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สุขภาพแข็งแรงและเสริมภูมิต้านทานตนเอง ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย หรือมีอาการไข้สูงมีน้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ มีอาการปอดอักเสบ หายใจไม่สะดวก มีอาการไอ จาม และหัวใจเต้นเร็ว ไม่ควรรักษาด้วยตนเอง และควรแจ้งบุคลากรทางการแพทย์ทราบให้เร็วที่สุด รวมทั้งแยกตนเองออกจากผู้อื่น
ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเรียนว่า ข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตฯ ทุกคนยังอยู่เคียงข้างคนไทยที่อาศัยอยู่ในคาซัคสถาน สาธารณรัฐคีร์กีซ และทาจิกิสถานเสมอ มีความห่วงใยและพร้อมให้ข่าวสารข้อมูล ตลอดจนความช่วยเหลือที่จำเป็น ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประชาสัมพันธ์มาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลคาซัคสถาน รัฐบาลคีร์กีซ และรัฐบาลทาจิกิสถานผ่านช่องทางต่าง ๆ อาทิ เว็บไซต์และเฟซบุ๊ค ‘Royal Thai Embassy, Nur-Sultan’ ของสถานเอกอัครราชทูตฯ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พี่น้องชาวไทยจะได้รับทราบข้อมูลอย่างครบถ้วน โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ จะรายงานมาตรการและให้ข้อมูลต่าง ๆ อย่างทันท่วงทีต่อไป จึงขอความร่วมมือคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศเหล่านี้รวมทั้งคนไทยที่มีความสนใจโปรดติดตามช่องทางการสื่อสารดังกล่าวเพื่อจะได้รับข่าวสารอย่างเร็วที่สุด และหากมีข้อสงสัยหรือประสงค์ขอรับความช่วยเหลือใด ๆ สามารถติดต่อสอบถามได้ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ [email protected] เฟซบุ๊คเพจ Royal Thai Embassy, Nur-Sultan หรือโทรศัพท์ +7 775 069 87 15
ขอให้ทุกคนเข้มแข็งและปลอดภัยครับ
ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใยเสมอ
นายรัศม์ ชาลีจันทร์ เอกอัครราชทูต
นายภราดร รังสิมาภรณ์ ที่ปรึกษา
นายวงศกร ชัยชนะ เลขานุการโท
นางสาวปฐมาวดี สุขสวัสดิ์จิตต์ เลขานุการโท
รูปภาพประกอบ
เวลาทำการ : วันจันทร์ - วันศุกร์, 9.00 - 12.00 น. และ 13.00 - 17.00 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)