วันที่นำเข้าข้อมูล 5 มิ.ย. 2568
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 มิ.ย. 2568
ระหว่างวันที่ 27 - 31 พฤษภาคม 2568 นางปิยะพิณ นิยมฤกษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงอัสตานา ได้มอบหมายให้ ดร. อรทัย ภูบุญลาภ กูนาซีลาน ที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัสตานา เป็นผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตฯ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก ดร. สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะผู้แทนนายกรัฐมนตรี และคณะผู้แทนไทย ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมนานาชาติระดับสูงว่าด้วยการอนุรักษ์ธารน้ำแข็ง (High-Level International Conference on Glaciers’ Preservation) ณ กรุงดูชานเบ สาธารณรัฐทาจิกิสถาน โดยมีผู้แทนจากประเทศสมาชิกสหประชาชาติ องค์การระหว่างประเทศ สถาบันการเงิน ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม เข้าร่วมมากกว่า 80 ประเทศ ทั้งนี้ การประชุมฯ จัดขึ้นตามมติของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่ได้ประกาศให้ปี 2568 เป็นปีสากลแห่งการอนุรักษ์ธารน้ำแข็ง และกำหนดให้วันที่ 21 มีนาคมของทุกปีเป็น “วันธารน้ำแข็งโลก” เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของธารน้ำแข็งต่อระบบนิเวศและสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการอนุรักษ์และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน
ในโอกาสดังกล่าว ดร. สุรสีห์ฯ ได้กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมใหญ่ โดยเน้นย้ำว่า แม้ประเทศไทยไม่มีธารน้ำแข็ง แต่ได้รับผลกระทบจากการละลายของธารน้ำแข็งผ่านภัยธรรมชาติต่าง ๆ พร้อมย้ำถึงความมุ่งมั่นของไทยในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2608 ควบคู่กับการขับเคลื่อนแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงต่อสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ และแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อที่ 6 (เรื่องการสร้างหลักประกันเรื่องน้ำและการสุขาภิบาล ให้มีการจัดการอย่างยั่งยืนและมีสภาพพร้อมใช้ สำหรับทุกคน) ตลอดถึงการให้ความสำคัญกับความร่วมมือพหุภาคี
นอกจากนี้ ในห้วงการประชุมฯ คณะผู้แทนไทยยังได้เข้าร่วมกิจกรรมคู่ขนานของสำนักงานเลขาธิการการประชุมว่าด้วยปฏิสัมพันธ์และมาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในเอเชีย (Conference on Interaction and Confidence Building Measures in Asia: CICA) เรื่อง “ความมั่นคงด้านน้ำและความสามารถในการตั้งรับปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ: รับมือความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศสมาชิก” โดยได้ร่วมกล่าวสุนทรพจน์นำเสนอแนวทางการบริหารจัดการน้ำของไทยที่มุ่งเน้นความยืดหยุ่นและยั่งยืนผ่านการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ใน 22 ลุ่มน้ำหลัก และการส่งเสริมแนวทางการจัดการโดยอิงธรรมชาติ ควบคู่กับการเสริมสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาค เพื่อยกระดับการปรับตัวและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างครอบคลุม
การเข้าร่วมการประชุมฯ ของคณะผู้แทนไทย นับเป็นโอกาสอันดีที่ไทยได้แสดงบทบาทเชิงรุกในเวทีโลกด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมทั้งได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีร่วมกับนานาประเทศ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนานโยบายและเสริมสร้างศักยภาพของไทยในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ตลอดจนสร้างเครือข่ายความร่วมมือในระดับภูมิภาคและนานาชาติที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุนบทบาทที่สร้างสรรค์ของไทยในกรอบความร่วมมือ CICA ในฐานะที่ไทยเป็นผู้ประสานงานด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนภายใต้มิติสิ่งแวดล้อมของมาตรการไว้เนื้อเชื่อใจของ CICA
รูปภาพประกอบ
เวลาทำการ : วันจันทร์ - วันศุกร์, 9.00 - 12.00 น. และ 13.00 - 17.00 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)